ใครที่เคยทำศัลยกรรมหรือกำลังตัดสินใจจะทำศัลยกรรม คงจะเคยได้ยินคำว่า Golden Ratio กันมาบ้างแล้วแน่นอน ว่ากันว่ามันคือสัดส่วนทองคำที่หากอยู่บนใบหน้าของใคร คนคนนั้นจะดูดี หล่อสวย หรือแม้แต่การทำศัลยกรรมให้ใบหน้าได้สัดส่วนทองคำนี้ก็ตาม แต่แท้ที่จริงแล้วคำว่า Golden Ratio นั้นมีความหมายว่าอะไร แล้วมีที่มาจากอะไร ทำไมถึงเอามาใช้กับใบหน้าของคนเราได้ เรามีคำตอบมาบอกกัน
ต้นกำเนิดของ Golden Ratio นั้นเริ่มต้นเมื่อ 2,200 ปีก่อน มีชายชาวกรีกที่ชื่อ Euclid คิดค้นเรื่องราวของเรขาคณิตขึ้นมา โดยมันคือการวางสัดส่วนที่ดูแล้วได้ความพอดี ลงตัว ซึ่งในช่วงแรกมันเป็นเพียงสัดส่วนที่ถูกใช้ในการคำนวณทางด้านคณิตศาสตร์มากกว่าด้านความงาม ก่อนที่ลีโอนาร์โด ดาร์ วินชี่ จะเริ่มนำไปใช้ในงานศิลปะแล้วยกให้เป็นสัดส่วนศักดิ์สิทธิ์ โดยคำว่าสัดส่วนทองคำนั้นเริ่มถูกเรียกกันจริงจัง ก็เพราะหนังสือนิยายเรื่อง The Da Vinci Code ของ แดน บราวน์ นั่นเอง Golden Ratio นั้นไม่ได้ถูกใช้แค่ในเรื่องความสวยงามของการวาดภาพศิลปะเท่านั้น แต่มันยังถูกนำไปใช้ในการออกแบบทางด้านสถาปัตยกรรมกันด้วย ซึ่งถ้าจะให้อธิบายเป็นตัวเลขนั้น คงจะต้องลงลึกรายละเอียดกันอีกยาว เอาเป็นว่าสรุปเป็นตัวเลขได้ง่ายๆ ว่า Golden Ratio คือสัดส่วนที่อยู่ในอัตรา 1 : 1.618 นั่นเอง
ปัจจุบันสัดส่วนทองคำก็ยังคงมีบทบาทสำคัญในการทำงานด้านศิลปะ ออกแบบ ถ่ายภาพ และล่าสุดกับการใช้ในด้านศัลยกรรม เพราะถึงแม้ว่าการทำศัลยกรรมของแต่ละคนนั้นจะไม่ได้เป็นการทำทั้งหน้าเลยก็ได้ตาม แค่เพียงทำจมูกใหม่นั้นก็จำเป็นที่ต้องนำเรื่องของสัดส่วนทองคำมาใช้ในการหาขนาดความเหมาะสมของจมูกด้วย เพราะหากอยู่ในสัดส่วนที่ลงตัวพอดี รับรองว่าคุ้มค่ากับการเสียเงินทำศัลยกรรมแน่นอน ในทางกลับกัน ถ้ามีความเข้าใจในเรื่องของ Golden Ratio ก็สามารถนำมาใช้คำนวณหาความเหมาะสมให้สัดส่วนบนใบหน้าได้ ทำให้ลงทุนทำศัลยกรรมเพียงครั้งเดียว แต่ได้ความสวยไปอีกยาวๆ ไม่ต้องเสียเงินเสียเวลามาแก้หน้ากันอีกในอนาคต ว่ากันว่าผู้หญิงที่มีใบหน้าอยู่ในหลัก Golden Ratio ที่สมบูรณ์แบบเลยคือ แองเจลิน่า โจลี่
อย่างไรก็ตาม การนำเรื่องของสัดส่วนทองคำมาใช้บนใบหน้านั้น จะไม่ใช้ในอัตราส่วน 1 : 1.618 แต่สัดส่วนที่นิยมใช้คำนวนจริงๆ คือ 1 1 1 โดยตัวเลขของสัดส่วนนี้จะเป็นความสมบูรณ์ของใบหน้าผู้หญิง ซึ่งถ้าลองใช้เส้น 1 1 1ในการหาสัดส่วนจากใบหน้าแล้ว จะเห็นได้ทันทีว่า ส่วนไหนบนใบหน้าที่ยังดูผิดไปจากสัดส่วนนั้น แพทย์ศัลยกรรมก็จะแนะนำให้ได้ว่า ควรจะแก้ไขในส่วนไหน เพื่อให้ใบหน้ามีความสวยงาม ได้อัตราส่วนที่พอดี การคำนวนสัดส่วนบนใบหน้าสามารถลองทำด้วยตัวเองได้ เริ่มจากนำรูปถ่ายใบหน้ามองตรง จากนั้นให้ขีดเส้นลงไปในแนวนอนเพื่อให้เห็นในส่วนที่หนึ่ง โดยจะอยู่ระว่าง หน้าผากลงมาจนถึงดวงตา จากนั้นให้ลากเส้นในส่วนที่สองคือจากดวงตาลงมาจนถึงปลายจมูก และส่วนสุดท้ายคือจากปลายจมูกลงมาจนถึงคาง เมื่อลากเส้นได้ครบแล้วก็จะเห็นว่าใบหน้าของเราสามารถแบ่งได้เป็นสามส่วน คือ 1 1 1 ให้ลองพิจารณาดูว่าสัดส่วนไหนที่ระยะห่างไม่เท่ากันกับส่วนอื่นๆ ซึ่งจุดนั้นเองเป็นบริเวณที่ควรต้องแก้ไข ด้วยการทำศัลยกรรม เพื่อความสมส่วนบนใบหน้าตามหลัก Golden Ratio นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหนึ่งวิธีในการหาสัดส่วนทองคำบนใบหน้า โดยวิธีนี้จะเป็นการหาระยะห่างและความกว้างของใบหน้า เพื่อดูว่าสัดส่วนที่เหมาะกับใบหน้าเรานั้นเป็นแบบไหน โดยวิธีนี้จะใช้สัดส่วนตามตัวเลขคือ 1 1 1 1 1 ส่วนวิธีในการหาสัดส่วนก็คือ นำภาพที่มีใบหน้าหันตรงตามองตรง จากนั้นให้เริ่มจากการขีดเส้นที่หัวตา 1 เส้น และอีกหนึ่งเส้นที่หางตาคือส่วนที่ 1 จากนั้นให้ขีดจากหางตาออกไปด้านข้างของใบหน้า โดยให้ระยะห่างเท่ากันกับเส้นแรก และขีดเพิ่มอีกสามเส้นออกไปอีกข้างหนึ่งของใบหน้า โดยยึดระยะห่างที่เท่ากันในแต่ละเส้น นับดูจะได้เส้นบนใบหน้าทั้งหมด 6 เส้นด้วยกัน แต่จะแบ่งเป็นสัดส่วนได้ทั้งหมด 5 ส่วน ลลองพิจารณาดูว่า ใบหน้าทางด้านไหนไม่สมส่วน บิดเบี้ยว หรืออวัยวะบนใบหน้าส่วนใดที่เกินจากสัดส่วนไป ซึ่งนั้นก็คือจุดที่ต้องแก้ไขด้วยการศัลยกรรมนั่นเอง
สุดท้ายแล้วการทำศัลยกรรมให้ได้ขนาดหรือแบบที่คนไข้ต้องการนั้นจะต้องมาจากความพึงพอใจของคนไข้เองมากกว่าก็ตาม แต่ถ้าหากทำศัลยกรรมกับแพทย์ที่มีความเข้าใจในเรื่องสัดส่วนทองคำละก็ ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมมีความสมบูรณ์และเพอร์เฟ็คท์ได้มากกว่าอย่างแน่นอน